วันนี้ (9 ส.ค.) เกิดเหตุคนร้ายใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ สาขาเพชรเกษม 46 แขวงบางหว้า กทม. โดยคนร้ายได้ยิงนายสุรเดช จิตนา อายุ 25 ปี พนักงานร้าน ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณโคนขาหนีบซ้าย 1 นัด และศีรษะ 1 นัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รีบนำส่งร.พ.เพชรเกษม 2 แล้ว
ด้านหน้าร้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบ มีหลอดใส่ธนบัตร 1 พันบาทตกอยู่
โดยพนักงานในร้านคนหนึ่ง เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุ กำลังยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์เก็บเงินกับเพื่อนผู้หญิงอีกคน และคนร้ายซึ่งสวมเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำ สกรีนตัวอักษร CC สวมกางเกงยีนส์ขายาว สวมหมวกกันน็อกสีดำแบบเต็มใบ เดินเข้ามาหน้าเคาน์เตอร์ และชักอาวุธปืนมาจ่อตน ก่อนจะบอกว่า “ส่งเงินมากูจะนับ 1 ถึง 5 ถ้าไม่ส่งให้กูจะยิง” พร้อมกางถุงรอเงิน ตนตกใจกลัวจึงหยิบเงินสดใส่ลงไป 4 มัด มัดละ 1,000 บาท
และขณะนั้น มีพนักงานชายที่เข้าเวรกะบ่ายกำลังจะเลิกงานเดินออกมาจากหลังร้าน เมื่อเห็นว่าคนร้ายลดอาวุธลง ก็พุ่งเข้าแย่งปืน จนแย่งปืนกันชุลมุนจนมีเสียงปืน 2 นัด และเพื่อนพนักงานก็ทรุดลงกับพื้น ขณะที่คนร้ายวิ่งหนีออกไปจากร้าน พร้อมทั้งหันกระบอกปืนยิงเข้ามาในร้าน 2 นัด โดนชั้นวางสินค้า จากนั้นก็ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่มีคนร้ายอีกรายติดเครื่องรออยู่หลบหนีไป
หลอดพลาสติกร้อมเงิน 1,000 บาทที่ตกอยู่นั้น เจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะทำตกขณะหลบหนี ตำรวจกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี เพื่อเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
วานนี้ (8 ส.ค.) มีรายงานว่า เจ้าของรีสอร์ตแห่งหนึ่งในจ.จันทบุรี ได้ออกมาเผยถึงกรณีพระฝรั่งชื่อดัง ที่บวชมานานกว่า 20 ปี อาศัยอยู่ในจังหวัดทางเหนือ และเคยออกรายการชื่อดังนั้น ได้แอบเสพเมถุนกับสีกาชาวต่างชาติว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความจริง โดยยืนยันว่าพระรูปนี้ได้มาพักที่รีสอร์ตของตน
นายน้อย (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเจ้าของรีสอร์ตเล่าว่า ตนได้รับการติดต่อจาก หญิงต่างชาติซึ่งอยู่ในกลุ่มคนรักสุขภาพ และแจ้งว่าจะเข้ามาพักที่รีสอร์ต โดยพานายแฟรงค์ (นามสมมติ) มาพักด้วยเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และตนเห็นว่านายแฟรงค์นั้นมีผมทรงสกินเฮด แต่ทีแรกก็ไม่ทราบว่าเป็นพระสงฆ์ กระทั่งภรรยาตนมาบอกว่าได้คุยกับนายแฟรงค์ก่อนกลับ และนายแฟรงค์เล่าว่าตนเป็นพระ บวชอยู่ที่อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน และเพิ่งสึกมา โดยจะกลับไปบวชใหม่เมื่อภรรยากลับไป
หลังจากที่รับรู้เรื่อดังกล่าวได้ประมาณ 2 ปี ตนก็เห็นนายแฟรงค์ในฐานะพระภิกษุ ออกทีวีกับ น.สพ.สมชาย ศิริเทพทรงกลด จิตอาสาช่วยเหลือผู้ยากไร้ นักเขียนชื่อดัง และระบุในรายการที่ไปออกว่าบวชมาแล้ว 17 ปี ตนจึงพยายามติดต่อหมอสมชายเพื่อแจ้งเรื่องนี้ให้ทราบ
เมื่อหมอสมชายติดต่อกลับมาหาตน ตนจึงได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่รีสอร์ตให้ฟัง และให้หมอสมชายไปถามนายแฟรงค์ว่าเคยสึกแล้วไปเที่ยวกับผู้หญิงหรือไม่ หลังจากนั้นตนก็ได้รับข้อความจากนายแฟรงค์ว่าอย่านำเรื่องที่ไปพักกับผู้หญิงในรีสอร์ตไปบอกใคร ซึ่งตอนนั้น ตนเห็นแก่นายแฟรงค์ที่เป็นพระที่ช่วยเหลือชุมชน รับบริจาคเงินช่วยเหลือคนยากจน ตนจึงยอมเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ แต่ก็ได้บอกกับนายแฟรงค์ไปว่า สิ่งที่ทำในวันนั้นทำให้เขาขาดจากการเป็นพระไปแล้ว ซึ่งก็ไม่ได้รับการตอบกลับจากนายแฟรงค์
นอกจากนั้น นายน้อยยังเผยว่า ขณะที่พักอยู่ที่รีสอร์ตนั้น นายแฟรงค์ได้หลุดปากแทนชื่อตัวเองว่า ‘อาตมา’ ออกมาด้วย อีกทั้งยังเรียกที่พักว่า ‘กุฏิ’ และเหตุที่ตนออกมาให้ข่าว เพราะมีผู้หญิงทักมาว่า เคยมีความสัมพันธ์กับนายแฟรงค์ และกำลังจะโดนทิ้ง เพราะนายแฟรงค์ไปชอบสาวไทยอีกคน ตนจึงนำเรื่องไปบอกหมอสมชาย และยอมรับว่าตนเครียดที่ต้องมารู้เรื่องนี้ แต่ก็เป็นห่วงคนที่ศรัทธาพระรูปนี้ เพราะไม่อยากให้ใครโดนหลอก
‘บิ๊กตู่’ คืนความสุข รถไฟฟ้าหมอชิต-ลาดพร้าว ต่อเวลานั่งฟรีถึง 5 ธันวา
รถไฟฟ้าฟรี – วันที่ 8 ส.ค. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดการทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคตจำนวน 1 สถานี จากสถานีหมอชิต (N8) ไปยังสถานีห้าแยกลาดพร้าว (N9) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน และบรรเทาปัญหาการจราจรบริเวณถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดีรังสิต
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอขยายระยะเวลาบริการฟรีให้แก่ประชาชนถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2562 ซึ่งประธานกรรมบริษัทขนส่งมวลชน กรุงเทพ จำกัด ได้ตอบรับเพื่อดำเนินการ
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ กล่าวว่านอกจากเรื่องรถไฟฟ้าที่ พลเอกประยุทธ์ให้ความสำคัญแล้ว รัฐบาลยังได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างเร่งด่วน โดยดำเนินการทั้ง รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรในพื้นที่ และช่วยให้ประชาชนสามารถเดินทางสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่จะต้องเดินทางไปเรียน ทั้งยังช่วยลดภาระของผู้ปกครองและลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อีกด้วย
น.ส.จินดารัตน์ กล่าวด้วยว่า หลังจากทำศัลกรรมมายอมรับว่าชีวิตเปลี่ยนไปเพื่อนฝูงส่วนใหญ่จะจำตนไม่ได้ โดยเฉพาะเพื่อนๆในเฟซบุค ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทจริงๆ ก็จะไม่รู้ และมีหนุ่มๆทักมาหลายคน แต่ตนก็ต้องระมัดระวัง และคิดถึงอนาคตลูกจึงไม่อยากตัดสินใจอะไรในตอนนี้ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ก็อาจจะมีทำศัลยกรรมเพิ่มอีกนิดหน่อยก็จะหยุดทำต่อ เพราะไม่ได้เป็นคนเสพติดการศัลยกรรม อยากทำครั้งเดียวให้จบเลย หลังจากนี้ก็จะดูแลร่างกายให้ดี อยากฝากไปยังคนที่คิดจะทำศัลยกรรมว่า ตนไม่อยากให้ไปทำศัลยกรรม เพราะมีความเสี่ยงมาก ทุกวันนี้มีคลินิกหลายแห่งเปิดรับทำ แต่ขาดความรับผิดชอบ และผลที่ออกมาอาจจะไม่ได้ตามที่เราคิดทุกคน หากใครคิดจะไปทำศัลยกรรม ก็อาจจะให้พิจารณาสถานที่ที่จะไปทำให้ดี หาข้อมูลให้รอบด้านก่อนจะตัดสินใจทำ
credit : nissigraff.com nousnepaieronspasvosdettes.com nydailynewsdemo.com omalleyssportpub.net packersjerseysshop.com painkillerawareness.org pornoklikk.com recunchosdacosta.com redemptionreg.com