บาคาร่าเว็บตรงไลน์แมนควงปืนปล้นแบงก์ สุดท้ายโดนพนักงานแบงก์รวบ

บาคาร่าเว็บตรงไลน์แมนควงปืนปล้นแบงก์ สุดท้ายโดนพนักงานแบงก์รวบ

วานนี้​ (2 ธ.ค.) ตำรวจสน.คลองตัน ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายชิงทรัพย์ธนาคารทหารไทย บาคาร่าเว็บตรงสาขาถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กทม. โดยที่เกิดเหตุอยู่ปากซอยพัฒนาการ 48 ฝั่งขาเข้า เป็นอาคารพาณิชย์ติดกัน 2 คูหา สูงจำนวน 4 ชั้น ด้านนอกมีตู้บริการฝาก-ถอนเงิน 2 ตู้ และตู้ปรับสมุดบัญชี 1 ตู้ ส่วนด้านในเป็นจุดบริการสำหรับลูกค้าที่ติดต่อทำธุรกรรมการเงินจำนวน 3 เคาน์เตอร์

ภายในพบพนักงานธนาคาร 3-4 คน อยู่ในอาการตกใจ ขณะที่คนร้ายถูกพนักงานธนาคารและพลเมืองดีได้ช่วยกันจับตัวไว้ได้ 

ทราบชื่อต่อมาคือนายพิชิต ศรีใสคำ อายุ 23 ปี อาชีพพนักงานไลน์แมน เป็นชาว ต.หนองใหญ่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ โดยพบอาวุธปืนปลอมสีดำ 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. 1 นัด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง คีม 1 อัน สนับมือ 1 อัน กระเป๋าใบใหญ่สีเทา 1 ใบ เสื้อแจ๊กเก็ตหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีน้ำเงิน-แดง 1 ใบ และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟไอ สีขาว-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน

จากการสอบปากคำ พนักงานธนาคารเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 14.40 น. ขณะที่ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่ให้บริการลูกค้าที่มาใช้บริการบริเวณหน้าเคาน์เตอร์พร้อมกับพนักงานคนอื่นอีก 3-4 คน มีคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 160-165 ซม. ขับรถจักรยานยนต์เข้ามา จอดติดเครื่องไว้บริเวณด้านหน้าธนาคาร สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีน้ำเงินแดง แจ็กเก็ตสีดำแขนยาว กางเกงขายาวสีดำ เดินเข้ามา

คนร้ายพยายามกระโดดเข้ามาภายในเคาน์เตอร์ช่องที่ 2 พร้อมกับตะโกนว่า ‘นี่คือการปล้น’ หลังจากสิ้นเสียงของคนร้าย ตนจึงคว้ากระเป๋าคาดหน้าอกของคนร้ายไว้จนเสียหลักล้มลงมาในเคาน์เตอร์ จากนั้นได้ตะโกนให้เพื่อนพนักงานและพลเมืองดีเข้ามาควบคุมตัว ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุม

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุจริงและทำเป็นครั้งแรก โดยจะขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนดูตามธนาคารต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงจำนวน 2-3 แห่ง ก่อนจะมาดูที่ธนาคารนี้ ซึ่งไม่มีพนักงานรักษาความปลอดภัย จึงตัดสินใจลงมือเข้าไปก่อเหตุ

ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุ เนื่องจากติดค้างค่าเช่าห้องพักมา 2 เดือน ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปค้นห้องเช่าในซอยรามคำแหง 1/1 แขวงและเขตสวนหลวง ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมไม่พบว่าเคยก่อเหตุอาชญากรรมแต่อย่างใด

นอกจากนี้ มีรายงานว่า ธนาคารดังกล่าวเคยถูกก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้วเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2561 ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุสวมหมวกกันน็อคสีขาวเต็มใบและใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน-เทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ได้เงินไปจำนวน 105,320 บาท และหลบหนีไป ก่อนจะถูกจับกุมตัวได้ที่บ้านพักย่านสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 62 ที่ผ่านมา

จับพิรุธคดีฆ่ายกครัว 3 ศพ – ญาติเผยปมแฟนหนุ่มของลูกสาว

จากกรณีที่ มีเหตุฆ่ายกครัว 3 ศพ ภายในบ้านพักหมู่ 3 ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย โดยตำรวจตรวจพบศพในบ้าน ประกอบด้วย นายอุดม กิมสี อายุ 57 ปี เจ้าของบ้าน และพนักงานกองคลังเทศบาล ต.บ้านดู่ นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องโถงหน้าบ้าน คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 วัน ภายในห้องนอนพบศพนางณัชชา กิมสี อายุ 51 ปี ภรรยานอนเสียชีวิต และในห้องนอนใกล้กันพบศพน.ส.เสาวรส กิมสี หรือน้องแป้ง อายุ 26 ปี

จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อคืนวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดในบ้านที่เกิดเหตุ แต่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเหตุร้าย กระทั่งเพื่อนเจ้าหน้าที่เห็นคนตายไม่ไปทำงาน เลยมาตามที่บ้านและพบ 3 ศพ โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าถูกยิงทั้งทั้ง 3 ราย แต่ต้องรอตรวจสอบ

จากความคืบหน้าวันนี้ (2 พ.ย.) พ.ต.อ.สันติ กองสมัคร รองผบภ.ภ.จว.เชียงราย กล่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตนั้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ฟันธงว่าเกิดจากเรื่องภายในครอบครัวกันเอง หรือเกิดจากการฆาตรกรรม แม้แต่สาเหตุร่องรอยการเสียชีวิตก็ยังไม่ชัดเจน เพราะยังคงต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพ เพราะศพมีสภาพขึ้นอืด ขณะที่ของกลางในที่เกิดเหตุยังไม่พบอาวุธ แต่ก็จะตรวจสอบอย่างละเอียด

ทางด้าน นายพัฒนพงษ์ โพธิ์เกตุ นายกเทศมนตรี ต.บ้านดู่ กล่าวว่า ปกตินายอุดมจะเป็นคนร่าเริง จึงไม่เชื่อว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ นายอุดมเองก็ไม่เคยบอกว่ามีเรื่องคับแค้นใจ อีกทั้งยังเป็นคนช่วยเหลือชาวบ้าน โดยนายอุดมจะเดินทางทำงานที่เทศบาลตามปกติ ในแผนกจัดเก็บรายได้ ทำให้แต่ละวันจะขี่รถจักรยานยนต์ออกไปสำรวจพื้นที่ตามสายงาน กระทั่งก่อนเกิดเหตุยังได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่และแม้แต่ตนก็เคยพูดคุยด้วยเสมอ เพราะนายอุดมถือเป็นคนเก่าแก่ที่ทำงานในเทศบาลมากว่า 10 กว่าปี

ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตนั้น ตนไม่อาจทราบได้ แต่ก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะดูแล้วไม่มีสิ่งใดจะมากดดันให้เขาต้องทำเช่นนั้น ส่วนจะเกิดจากถูกฆาตกรรมหรือไม่นั้น คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ได้คลี่คลายคดี

จากการสอบสวนญาติผู้เสียชีวิตทราบว่า น.ส.เสาวรส เพิ่งคบหากับแฟนหนุ่มทราบชื่อนายนวล อายุ 27 ปี เป็นชาวอ.แม่จัน โดยญาติบางส่วนไม่เห็นด้วยที่น.ส.เสาวรสไปคบหากับนายนวล เพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับฝ่ายหญิง ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังชุดสืบสวนออกติดตามหาตัวนายนวล พร้อมทั้งแจ้งตำรวจท้องที่ข้างเคียงไปจนถึงชายแดนอ.แม่สาย และอ.เชียงแสน ให้ช่วยติดตามหาตัวโดยด่วนแล้วบาคาร่าเว็บตรง